-=Jfk=-

Watch Collection

Glashutte Original PanoMaticLunar Limited(Siam Naliga Project III)
Movement Base Calibre 90-02

สุดยอดนาฬิกาจากเยอรมัน กับ ความฝันของหมู่นักสะสมนาฬิกาชาวไทยกลุ่มหนึ่ง คือ ชุมชน สยามนาฬิกา คือที่มาของ สุดยอดนาฬิกาLimited collection นี้
กว่าจะมาเป็นProject III และ ลงตัวที่ตัวนี้ หลังจากที่ Siam Naliga ชมรมคนรักนาฬิกา ที่ก่อตัวขึ้นจากการพบปะพูดคุยกันทาง อินเตอร์เน็ตได้จัดทำนาฬิกา Limited เฉพาะกลุ่มของเรามาแล้วสองรุ่น คือ Project I Epos Big Date จำนวน จำกัด 50 เรือน และ Project II Seiko 5 Superior จำนวน 200+100( 200 เรือนแรก เป็น Limited ที่เราสั่งทำ ประทับหมายเลขประจำเรือนเรียบร้อย ส่วน 100 หลังทาง เมืองทองไซโก้ สั่งทำมา เหมือน กับ Project II แต่ไม่ได้ประทับหมายเลขประจำเรือน ซึ่งทางเราได้รับมาจัดสรรให้กับสมาชิกจนหมดเช่นเดียวกัน
เมื่อหมด Project II ได้มีการพูดคุยกันในหมู่กรรมการ ว่า น่าจะทำนาฬิกา Project พิเศษ ขึ้นมาซักรุ่นนึง โดยเลือก Brand ที่อาจจะเรียกว่าหรูหน่อย มีกลไก และหน้าตาที่ดูดี โดยอาจจะยอมสู้ราคาแพงพอสมควร และจำนวนทำไม่มากนัก แค่พอกับความต้องการของเพื่อนๆ ที่ต้องการจริงๆ เช่นอาจจะประมาณ 10-20 เรือน
เมื่อวางโครงการแล้ว ทีมงานประสานงานได้ติดต่อ กับทาง ตัวแทน และบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ดังหลายแบรนด์ เพื่อเลือกนาฬิกา ใน Collectionของเค้า ออกมาทำ เป็นตัว Limited รุ่นพิเศษของเรา เราเกือบลงตัว กับ VC หรือ IWC และอีกหลายแบรนด์ดังหลายครั้ง
แต่ในที่สุดหลังจากการเลือกสรร และ พิจารณา ถึงความเหมาะสมหลายๆด้านแล้ว ข้อสรุป ก็มาลงตัวกับ นาฬิกาสายเลือดเยอรมัน จากเมือง Glashutte แขวงเมือง Dresden บ้านเดียวกับ นาฬิกาเยอรมัน Brand ดังระดับสุดยอดของโลกอีก Brand นึง นั่นคือ A. Lange & Shone ซึ่งก็คือ GO PanoMaticLunar ตัวนี้
ซึ่งถ้าสืบสาวไล่ตามไปจนถึง ปี 1845 แล้ว ก็จะพบว่า จริงๆแล้ว ต้นกำเนิดของ GO กับ A. Lange & Shone ก็สืบเชื้อสาย มาจาก Ferdinand A.Lange ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมนาฬิกา ของเมืองนี้เหมือนกันๆ กันนั่นเอง
สำหรับผมเอง คิดว่ากรรมการเลือก Brand นี้ นอกจากความสวยงามของตัวนาฬิกา และกลไกที่ขัดแต่งอย่างงดงาม และฟังชั่นที่ลงตัว ในราคาที่สมเหตุผล(ว่าง่ายๆ ก็คือ ถูกกว่า Brand อื่น แต่สวยระยับเหมือนๆกันๆ และคุณภาพพอๆกัน นั่นแหละอิๆ) แล้ว คิดว่าอีกเหตุผลนึง ก็คงจะเป็นเพราะว่า GO เป็นหนึ่งใน ไม่กี่ Watch Manufacturer (บริษัทผลิตนาฬิกา ที่ทำเครื่องนาฬิกาของตัวเองได้ด้วย) ที่ใช้เครื่องของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องของคนอื่นมาใช้เลย หรือ อย่างที่เค้าบอกนั่นแหละว่า ถ้าคุณเห็น GO Outside ละก้อ มั่นใจได้ว่า GO In Side แน่นอนไม่ ใช่ Intel Inside :P :P :P

ไล่แกะกล่องดูกันว่ามีอะไรมากับเรือนนี้กันบ้าง เริ่มด้วยกล่องนอก สีน้ำตาลเรียบร้อย

กล่องในเป็นกล่องไม้ลายสวย ไขเปิดด้วยกุญแจสีทองดอกน้อยๆ ด้านบนฝา สลักชื่อ Brand และ หมายเลขประจำเรือน ต้องบอกว่า ดูแล้ว กล่องหรูเกินกว่านาฬิกา ซะอีก ดูท่าจะไปหยิบยืม กล่องของนาฬิกา รุ่น Top ของบริษัท มาดัดแปลงใช้ใหกับ Project นี้ เพราะว่า กล่องของ Pamomatic Lunar รุ่นธรรมดาไม่หรูเท่านี้อ่ะ

Close Up มาดูแผ่นป้าย สีทองเล็ก สลัก ชื่อรุ่น Siam Naliga PanoMaticLunar Special Edition 50/50
ดูเฉยๆ อย่าอิจฉา เลขสวยครับขอร้องฟ้าส่งเรือนนี้ให้มาอยู่คู่กับผม เพราะว่า 50/50 ของ Project 1 ก็บังเอิญอยู่กับผม เช่นเดียว กับ 50/200 ของ Project II ก็อยู่กับผมเช่นกัน ดังนั้นถ้ามี Pro อื่นๆ No 50 ขอผมนะอิๆ :P

ไขกุญแจเปิดกล่อง ข้างในบุหนังสีครีมนวลสวยพร้อมหมอนนาฬิกาสีเดียวกัน สวยแบบสุภาพ


เปิดฝาที่เก็บของด้านหลัง เห็นที่วาง Pusher ที่ใช้กดตั้ง Moonphase ส่วนด้านซ้ายแทนกลมๆ เป็นที่วางของแว่นขยายไว้ส่องดูเครื่องสวยๆ กับ ดูพระจันทร์เวลาตั้งเวลาให้เห็นชัดขึ้น อีกหนึ่งอ๊อปชั่นพิเศษ ที่ จัดเพิ่มมาให้กับ Project นี้ ตัวนี้มีกล่องใส่แยกกับผ้าเช็ดเลนส์แยกมาให้ต่างหาก

ยกแท่นวางนาฬิกาทั้งหมดออกจะเป็นหลุมสำหรับวาง คู่มือการใช้งานนาฬิกา และ ใบรับประกัน กับปฏิทินช่วยตั้ง ข้างขึ้นข้างแรมสำหรับ Moon phase

ตัวเรือน Project III ทำจาก Stainless Steel ขัดมันผสมขัดด้านสวยงาม (แต่ถึงมันจะสวย แต่ว่าพอมองตัวเรือนขึ้นมาทีไร ทำไมผมนึกคอยจะนึก เสียดายว่าทำไม มันไม่เป็น White Gold น้อ :P :P)
ขนาด Diameter ตัวเรือน 39 mm. ถ้ารวม Crownด้วย ก็ 42 mm. ขนาดของ Diameter กระจกหน้าปัด 32 mm. ตัวเรือน ความหนา11.5 mm. ขนาดความกว้างของหูสาย ใช้กับสาย ขนาด 19 มม.
กระจกหน้าปัดเป็นCrystal Sapphire วางLayout ของ Dial คล้ายกับ Lange 1 วงเวลาบอกชั่วโมงและนาที เป็นแบบ Outcenter ไม่ได้อยู่ตรงกลางตามปกติ มี Subdial ของเข็มวินาที ทับซ้อนทางด้านล่าง
หน้าปัดพระจันทร์บอกข้างขึ้นและข้างแรม อยู่ที่ 2 น.เป็นสีพิเศษ สีน้ำเงินเช่นเดียวกับหน้าปัด ต่างกับรุ่นปกติที่เป็นสีเทาเงิน ส่วนวันที่ อยู่ที่ 4 น.เป็นแบบ Paonoramic หรือ Big date ตัวโต แยกหลักหน่วยกับหลักสิบจากกัน มองเห็นได้ชัด
เช่นเดียวกับนาฬิกา จักรกลทั่วไป การตั้งวันที่ และ พระจันทร์ แบบ Quick Set ห้ามตั้งตอนที่กลไกเปลี่ยนเวลาจะทำงาน นั่นคือ ห้ามตั้งวันที่ แบบ Quickset ตอน 8 pm- 2 am และห้ามตั้ง Moon phase ตอน 2-5 am

ฝาหลังเป็นแบบสกรูขันเกลียว กันน้ำได้ 30 เมตร(3 ATM) แต่แปลกที่ในคู่มือ กลับบอกว่าเป็น 50 เมตรอิๆ)
หมายเลขประจำเรือน 50/50 ก็ถูกสลักลงไปบนฝาหลังเช่นกัน
ฝาหลังจะเป็นแบบเปลือยใสมองทะลุเห็นเครื่องผ่านทางกระจก Crystal Sapphire เปิดให้เห็นเครื่องขนาดใหญ่แบบเต็มตัวเรือนซึ่งเป็นหัวใจหลักของ นาฬิกาเรือนนี้ คือเครื่อง Automatic Calibre 90-02 ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ใช้โรเตอร์ขนาด 2/3 แบบ Out Center ตัวโรเตอร์ เป็น แบบSegmented Rotor ถ่วงน้ำหนักที่ขอบด้วยทองคำ 21K เข้าลานทางเดียว และ ที่พิเศษสุดก็คือ Rotor สำหรับ Project III ไม่ได้ใช้ สัญญลักษณ์ ตัวฉลุ GO ตามปกติแต่ถูกทดแทนด้วย Logo ทองคำ ของสยามนาฬิกา ที่สุดสวยแทน ซึ่งดูเหมือนว่า จะเป็นครั้งแรกที่ GO ยอมทำโรเตอร์ลายอื่น ที่ไม่ใช่ของตัวเองขึ้นมา ตัวเครื่องขัดแต่งด้วยลาย Cote De Geneve หรือ ที่ทาง GO เรียก ของเค้าว่า Glashutte Ribbing หรือ การขัดลายตามขวาง นั่นเอง
Screw หลัก เป็น Bluesteel เพิ่มความแข็งแกร่ง และสวยงามให้กับเครื่อง
กลไก Calibre 90-02 ตัวนี้ ใช้ความถี่เครื่อง 4 Hz (28800vibration/h) มีทับทิมสังเคราะห์ รองรับแกนหมุนจำนวน 47 jewel ใช้ระบบกันสะเทือนแบบ Incablock พลังงานจากตลับลาน NivaroxI ให้ พลังงานสำรองสำหรับการทำงานหรือ Power Reserve 42 ชั่วโมง
จุดสวยของเครื่องตัวนี้ อีกจุด อยู่ที่ ตัวปรับแต่งความเที่ยงตรง Fine Adjustment แบบ Duplex Swan Neck ซึ่งดูแล้วสวยกว่า แบบ Swan Neck เดี่ยวธรรมดาแฮะ

Close Up เข้ามาดู Siam Naliga Rotor ทองคำ กันใกล้ๆ อีกที สวยงามไร้ที่ติ ต้องขอบคุณ คุณ Talaezai กรรมการสาวของบอร์ดเราที่เป็นคนออกแบบ โลโก้ สยามนาฬิกาที่สวยงามนี้มาใช้ ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งเว็บมา แล้วก็ ขอบคุณ เพื่อนเราในต่างแดน คุณ Watchlover หรือเซียนเสี่ย หรือ เซียนเอนไซโคปิเดีย แห่งสยามนาฬิกา ที่ช่วยออกแบบโลโก้ นี้ ข้ามมาจากอีกซีกโลกให้กับพวกเรา :)

ด้านข้างตัวเรือน ไม่หนามากนัก ขัดด้านแบบ Satin Finished เนียนสวย จนน่าห่วงตอนเป็นรอย มี ปุ่มเล็กที่ตำแหน่ง 2 น.ข้างตัวเรือนใช้ Pusher กดปรับตั้ง พระจันทร์ ข้างขึ้นข้างแรม

Deployant Buckle แบบ Double Folding Clasp พร้อม Logo ของ GO เปิดด้วยการกดปุ่มคลายล้อคทั้งสองข้าง มาพร้อมกับสายหนังจรเข้ Louisiana สีน้ำเงินเข้ม รับกับหน้าปัดนาฬิกาสีเดียวกัน สะดวกในการถอดและใส่แทนหัวเข็มขัดธรรมดา

Wrist Shot ตามระเบียบ ทาบกับข้อมือ ขนาดเล็กแค่ 6 นิ้ว กำลังพอดี ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ที่แน่ๆ สวยบาดใจ อิๆ :P

สรุป ถึงจะไม่นับความเป็น Limited ของสยามนาฬิกา แค่ตัวนาฬิกา รุ่นนี้เอง ก็มีความโดดเด่นเพียงพอที่จะชวนให้เป็นเจ้าของในระดับราคา ประมาณ 3 แสนบวกลบ สำหรับตัวเรือน Stainless Steel
และเมื่อยิ่งรวมกับความเป็น Limited ของสยามนาฬิกา และ Rotor สุดสวยเฉพาะตัว ต้องบอกว่าเสียดายแทนเพื่อนๆ ที่ไม่ได้จอง เพราะว่าตอนนี้แม้จะมีการเสนอราคาซื้อต่อในราคาที่สูงกว่า ราคาจอง หลายสิบเปอร์เซนต์ แต่ข้อตกลงร่วมกัน ที่จะไม่ให้มีการขาย นาฬิกา Project III (ตลอดจน Project อื่นๆ ) ออกไปเพื่อการทำกำไร ถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน ทางสยามนาฬิกายินดีรับซื้อกลับคืนมา และจัดสรรให้สมาชิกอื่นต่อไป เป็นสัญญาสุภาพบุรุษ ที่มีให้กัน ถ้าสัญญาสุภาพบุรุษ นี้ถูกทำลาย ก็เป็นไปได้ที่ คณะกรรมการอาจจะขอตัดสิทธิ ในการจอง Project ต่อๆไป ของสมาชิกท่านนั้น
ดังนั้นใครที่พลาดโอกาสในการครอบครอง คงต้องลงชื่อรอไว้เผื่อ ฟลุ้ค แฮ่ะๆ
แต่ที่แน่ๆ เบอร์ 50/50 เรือนนี้ เจ้าของ ยังไม่คิดปล่อยแน่นอน :P

ปิดท้ายด้วยการ จับถ่ายรูป ร่วมกับ GO Perpetual Calendar PG ของค่ายเดียวกัน และ A Lange & Shone Lange 1 ยักษ์ใหญ่จากเมืองเดียวกันดูสิ ว่าใครสวยกว่ากัน :P

มาดูด้านหลังเปลือยเครื่องทั้งสามตัวเช่นกัน ต้องบอกว่า Rotor สยามนาฬิกา และ Duplex Swan Neck ช่วยส่งให้ แผ่นหลังของ Projcet 3 เหนือกว่าอีกสองตัวแฮะ :P

Back to Jfk watch Collection

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com