-=Jfk=- Tour & Trip

ทริปสั้นๆ สุดสัปดาห์ เหิรฟ้าไปสมุย
16-18 มีนา 55

วันศุกร์บ่ายทำงาน ถึงเที่ยงกว่าๆ
12:30 น. แพ็คกระเป๋า โยนใส่ท้ายรถมินิ คันน้อย ออกจากบ้าน ขับไปจอด ที่สุวรรณภูมิ  
16:15  บินไฟท์ PG 169  Direct Flight ไปสนามบิน เกาะสมุย
17:45 รับรถ เช่า  Yaris จาก   AVIS ที่จองผ่านเว็บไว้ แล้ว ขับเล่นชมวิวเมืองก่อนเข้าเช็คอิน ที่ Centara Villa สมุย ตอนค่ำ ๆ
เสาร์ - อาทิตย์ ใช้เวลา ขับรถลุยตะลอน ไปรอบเกาะสองวัน สามร้อย กิโล
อาทิตย์ 18:00 ทานอาหารเย็นมื้อสุดท้ายบนเกาะสมุย ที่เสบียงเล
19:00  ขับรถมาคืน Avis ที่แอร์พอร์ต ตอนสองทุ่ม ก่อนเช็คอิน เดินทางกลับ
21:30  บินกลับกับไฟลท์  PG190 ถึง สุวรรณภูมิ 22:50 น.
ขับรถกลับ ถึงบ้านสบายๆ  ก่อนตีหนึ่งเล็กน้อย เป็นทริปสุดสัปดาห์สบายๆ ไม่เหนื่อยมากนัก

สนามบินเกาะสมุย เป็นฐานบัญชาการใหญ่ ที่เป็นรากฐาน ของบริษัทบางกอกแอร์เวย์ ที่ปักหลักสร้างสนามบินส่วนตัวที่นี่ มากว่ายี่สิบปี เป็นการผูกขาด เส้นทางการบินเส้นนี้แบบเบ็ดเสร็จ แม้ว่าปัจจุบันจะยอมให้การบินไทย บินมาลงบางไฟท์ แต่ค่าใช้สนามบินที่เก็บแพง (ได้ยินว่าค่า ใช้สนามบิน บินลง ไฟล์ละแสน แพงเอาเรื่อง)  ทำให้ตั๋วเครื่องบิน สมุย-กรุงเทพ แพงได้ใจมาตลอด แพงกว่าไปต่างประเทศ หลายประเทศด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่ธุรกิจการท่องเที่ยว ของสมุยอยากให้แก้ไขกัน เพราะว่าจะพึ่งเรือเฟอรี่ ก็ ช้าและ ตอนหน้าเทศกาล ก็ต้องรอคิวกันนานมาก หลายชม.กว่าจะได้ลงเรือ

หลังจากเครื่องลง แล้วรอรับ กระเป๋าจากสายพาน ซึ่งมาถึงอย่างรวดเร็ว ก็ออกไปติดต่อรับรถเช่าจาก Avis ด้วยขั้นตอนง่ายๆ แค่ไม่ถึงสิบนาที ได้รับรถตอน 17:45 แต่พนักงานใจดี บอกว่าคิด เวลาเริ่มให้เป็น 18:00 น.ล่ะกัน ดังนั้นกำหนดเวลาคืนรถ ซึ่ง AVIS ให้คืนได้ Late อีกสองชม. ดังนั้นกำหนดคืนรถคือ 20:00 น. วันอาทิตย์ ซึ่งพอดีกับเวลาเช็คอิน ขากลับพอดี ลงตัวเป๊ะๆ
ได้รถ แล้ว ก็ ติด GPS ทีเอาลงจากรถติดกระเป๋าไปด้วยเสียบเข้ากับรถ แล้ว ก็ วิ่งจากแอร์พอร์ตตะลุยเมืองกันเลย อิๆ

ขับผ่านถนนเรียบหาดเฉวง เฉวงน้อย แล้ว ผ่านจุดชมวิว ลาดเกาะ เลยจอดแวะลงไป ชมวิว และ ถ่ายรูปเล่น เป็นจุดแวะแรกที่ แวะลง เยี่ยม หลังจากขับรถ ออกจาก Air Port มา

จุดนี้เป็นทางลงเขา จากหาดละไม ไปยัง ทางตอนใต้ของเกาะ รถผ่านลงเขาตรงนี้ ทีไรรู้สึกชอบมาก เป็นอีกจุดที่วิวสวย เห็นหินใบเรือ อยู่เหนือปากอ่าว

ประมาณทุ่มกว่าๆ ขับรถตาม GPS ก็มาถึง Centara Villa Samui ที่อยู่ ตรงข้ามสวนผีเสื้อ ทางตอนใต้สุดของเกาะ
เข้าเช็คอินที่ Lobby ตอนค่ำๆ ค่อนข้างเงียบสงบไม่พลุกพล่าน
Welcome drink เย็นเจี๊ยบ หวานอมเปรี้ยว ผ้าเย็นสดชื่น พนักงานต้อนรับ สุภาพ เป็นกันเอง  ให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว หายเหนื่อยเลย :)

ห้องพักรอบนี้ ที่จองมาเป็น Garden Villa แต่ทาง Centara Upgradeให้เป็น Deluxe Garden Villa ให้ ก็สะดวกสบาย สะอาดสงบ ถือว่า พอใจให้ผ่าน :P

ห้องนอนสะอาด กว้าง สะดวกสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ที่ชอบมากคือไฟอ่านหนังสือหัวเตียงแยกข้างกันสะดวกดี
แต่ที่อยากติ คือทีวี ยังเป็น CRT รุ่นโบราณ แถมยังใช้ระบบสายอากาศแบบเก่า ทำให้ภาพไม่ชัดเท่าที่ควร ทั้งที่เดี๋ยวนี้ ระบบดาวเทียม สะดวกคมชัด ประหยัด ใช้กันทั่วไปหมดแล้ว
ฝากเปลี่ยนให้ด้วยนะคับ :P

ห้องน้ำสำหรับ Deluxe Garden Villa ไม่มีอ่างอาน้ำ แต่ห้องน้ำ กว้างอุปกรณ์อำนวยคววมสะดวกครบ รวมทั้ง Rain Shower ที่น้ำแรง และอุ่นได้ระดับ

หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จ ก็ขับรถออกมาหาอาหารค่ำ ทานกัน มื้อแรก แวะ ฝากท้องที่ ครัวชาวบ้าน ร้านที่ ได้รับการแนะนำ รองจากเสบียงเล ทริปนี้ ตั้งใจ เน้นอาหารพื้นเมืองเป็นหลักเลย

ใบเหลียงผัดไข่ อร่อยมากๆ
วาย(ปลาหมึกยักษ์ตัวเล็กที่มีแต่หัวและหนวด) ผัดฉ่า อร่อยมาก แต่เผ็ดไปหน่อย กินแล้วร้อนเลย อิๆ
แกงคั่วเห็ดหลุบ (เห็ดทะเล ที่คล้ายๆ สาหร่าย เคี้ยวกรุบๆ คล้ายเอ็น ) อร่อยดี เช่นกัน
ยำไข่หอยเม่น ผสม สาหร่ายข้อ ผสม หอยเจาะ(หอยตัวเล็กคล้ายหอยนางรม ) อันนี้เค้าต้องปรุงรสจัด เพื่อดับคาว เผ็ดแซ่บ
หอยนางรมสด ทรงเครื่อง
แกงส้มปลาอินทรี ยอดมะพร้าว รสดี ชามโต แต่ก็กินกันหมดจาน
มื้อนี้ ดู อาหารแล้ว ชวนท้องเสีย  แต่รอดมาได้  อิๆ
กำลังกินอยู่ดีๆ ไฟดับทั้งเกาะ ต้องจุดเทียนกินกันจนอิ่ม แล้ว ก็ย้ายยยยยยยยยย :)

สมุยก็มี วิลล่า นะ
คืนวันศุกร์ ออกจากครัวชาวบ้าน ไฟยังดับ อยู่เกือบครึ่งเกาะ
ขับรถเล่นไป หาดละไมส่วนใหญ่ไฟดับร้านปิดกันเกือบหมด เลย ย้อนกลับมาแวะมาที่วิลล่านี้
นั่งกินกาแฟ และ ซื้อของกินเล่นก่อนแวะกลับ รีสอร์ท

มื้อเช้าวันเสาร์ ที่ Pavilion ริมหาด มื้อนี้ แฮมรมควัน กับเบค่อน อร่อยมาก เลยหนักท้องไปนิด :)
เห็นพนักงานเช็คยอดแขกที่เข้าพัก บอกว่าแขกวันนี้ 180 คน มีคนไทย แค่ 4 คน เรากลายเป็นคนกลุ่มน้อยไปซะแล้ว
เคยเห็นในรีวิว มีคนวีนว่าเค้าไม่ค่อยสนใจบริการคนไทยเท่าคนต่างชาติ แต่ที่เห็นนี่โอเคเลย สงสัย อบรมกันใหม่ดีแล้ว อิๆ
ถ่ายรูปมาเสร็จเพิ่งเห็นว่า จาน รกจัง :)

หลังอาหารเช้าวันเสาร์ แวะลงมาเล่นน้ำ ที่ชายหาดของ รีสอร์ท น้ำสะอาดใช้ได้ หาดทรายสะอาดพอสมควร แต่มีกรวดตามพื่นทรายบ้าง มีโขดหิน ริมหาด สองสามจุด แต่ไม่เป็นอุปสรรค ต่อการเล่นน้ำแต่อย่างใด แถมยังดูสวยดี ซะอีก
หาดแถวนี้ ได้เรื่องความสงบเป็นจุดเด่น เนื่องจากเป็นหาดส่วนตัว ไม่มีคนภายนอกมาเที่ยว เหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ

บริเวณ ของวิลล่า ยังคงสภาพ เป็นป่ามะพร้าว สลับกับต้นไม้อื่น ดูร่มรื่น มีทางเดินลงมายังสระว่ายน้ำและชายหาด

สระน้ำใหญ่ของโรงแรม อยู่ด้านล่างสุด ใกล้ชายหาด สร้างเป็นรูปผีเสื้อ และมีผีเสื้อพ่นน้ำ ตกแต่งรอบๆ ตาม Concept ของรีสอร์ทเก่า คือสวนผีเสื้อที่ทาง Centara ไปเทคโอเวอร์มา
น้ำในสระใหญ่นี่ รู้สึกมีรสเค็มนิดๆ คิดว่า น่าจะเป็นสระที่บำบัดด้วยน้ำเกลือ แทนคลอรีน(เดาเอานะ อิๆ )

สระกลาง อยู่สูง ถัดจากสระใหญ่ขึ้นมา น้ำลึกกว่าสระอื่น มีน้ำตกประดับ อยู่บริเวณสระ และมีแป้นบาสให้เล่น น้ำใสแจ๋วมีรสอมเปรี้ยวนิดๆ คล้ายกับใส่สารส้ม ต่างกับสระล่าง สระนี้เหมาะกับคนที่ ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนสระใหญ่ด้านล่าง
และจากสระกลาง จะมีบันไดเดินต่อขึ้นไป สระเล็กด้านบน ซึ่งเป็นสระที่ตื้นสุด และ เล็กสุดเหมาะกับเด็กๆ เล่น (รูป มุมล่าง ขวาสุด )

บ้านพัก ที่ Centara Villa สมุยเป็นบ้านพัก ไสตล์วิลล่าสร้างบนเนิน ในสวนหันหน้าออกทะเล ทุกหลังมีทางเดิน ลงไปสวน และ ห้องอาหาร และสระว่ายน้ำทั้งสามสระที่อยู่ริมทะเล บรรยากาศคล้ายๆ กับ รีสอร์ทสไตล์บาหลี และแอบรู้สึกว่า มันคล้ายกับรีสอร์ท ที่ นากาโก้ต เนปาล ที่เคยไปพัก มากเลย เหมือนฝาแฝด
แต่อันนั้นหันหน้าเข้าหาเทือกเขาหิมาลัย แทนทะเล:P

ผีเสื้อ ดอกไม้ ชายหาด
ที่นี่ เห็นสัญญลักษณ์ ผีเสื้อเยอะ อย่าแปลกใจ เพราะว่า เครือ Central เค้าเทคโอเวอร์ รีสอร์ท สวนผีเสื้อ มาทำ เป็น Centara Villa สมุย นั่นเอง

ขึ้นจากหาด เข้ามาอาบน้ำ แต่งตัว แล้วออกจากรีสอร์ท เกือบๆ เที่ยงวันเสาร์ ขับรถแวะเที่ยวตามแผนที่และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รีสอร์ท ที่เค้าแนะนำไว้
จุดแรกที่ไปแวะ คือ แวะนมัสการหลวงพ่อแดง ปิยะสิโล วัดคุณาราม(วัดเขาโป๊ะ) เกจิดังที่มรณะภาพไปนาน ยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ศพไม่เน่า เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่คนแวะไปเยี่ยมชม นมัสการกัน
สังเกตุ สีผิวของหลวงพ่อเป็นสีขาว ปนน้ำตาลอ่อนคล้ายสีผิวคนปกติ ต่างกับ สีผิวของศพเกจิบางองค์ อย่างหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค บ้านผม ที่สีผิวออกคล้ำคล้ายยาง

จุดต่อไป ที่มาแวะ ห่างกันไม่มาก คือ น้ำตกหน้าเมือง เป็นน้ำตกใหญ่สูง 80 เมตร แต่ช่วงนี้น้ำน้อย แต่มีแอ่งน้ำให้คนมาเล่นเยอะ
ตรงอีกด้านของน้ำตกเป็นน้ำตกหน้าเมือง2 อันนั้น เป็นที่ทำการบริษัทท่องเที่ยว Adventure และ นั่งช้าง อยู่ใกล้ๆกัน

ถัดไป ขับรถไปทางตลิ่งงาม แวะ เที่ยว วัดคีรีวงการาม ซึ่งที่นี่ก็มีหลวงพ่อที่มรณะภาพ แล้ว ไม่เน่าเปื่อย
เหมือนกัน คือหลวงพ่อ เริ่ม (พระครูวิมลธีปคุต) ซึ่งก็มรณะ ไปพร้อมๆกับหลวงพ่อแดงวัดเขาโป๊ะเช่นกัน
วัดนี้ทางเข้าวัด ทำเป็นซุ้มประตูช้าง เรียกซะเท่ห์เลย Elephant Gate มีช้างคู่ยืน ที่ทางแยกถนนก่อนเข้าวัด แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา :)

ออกจากวัดคีวีวงการาม ก็ขับรถวนรอบเกาะไปทางด้านตะวันตกของเกาะจากใต้ไปเหนือ ผ่านไปทาง ท่าเรือเฟอรี่ ที่หน้าทอน ผ่านที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย

จากนั้น ขับรถ วนขึ้นเลยไปทางด้านเหนือของเกาะ ไปเดินเล่นต่อ ที่บ่อผุด
ถนนที่ บ่อผุดค่อนข้างเล็ก มีการจัดเป็นถนนคนเดินคืนวันศุกร์ แต่วันธรรมดา รถเข้าไปได้ แต่ก็แคบ ลำบากหน่อย แต่ ก็จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ดี ไม่งั้นไม่รู้จะไปจอดที่ไหน :P

หลายๆ ร้าน ริมถนนคนเดิน ของบ่อผุด แต่ง แนว ฮิป ฮิป ของ ร้านสีส้ม-ชมพู นี่สีโดนใจเลย ชื่อก็เท่ห์ " Kama Sutra "

ผ่าน Star Island  Coffee ริมหาด ที่บ่อผุด ร้านนี้ ก็แต่ง สวยดี น่านั่ง

Module แพ สะพานเทียบเรือ พลาสติค Made In Thailand ฝีมือคนไทย ที่บ่อผุดสวย ดี ดูน่าใช้ และน่าจะทนทานได้ ใช้แยกประกอบเป็นชิ้นๆได้ เลือกประกอบ ให้กว้าง หน้า ใหญ่ ยาว ได้ตามต้องการ

เรือท่องเที่ยว ที่สะพานเทียบเรือ ที่บ่อผุด ตรงหน้า The Pier

ชายหาดที่บ่อผุด ค่อนข้างสงบ คนไม่มากวุ่นวาย เหมือน หาดเฉวง และ หาดละไม

จากบ่อผุด ขับรถ วนขวาเลาะไปตามด้านเหนือของเกาะต่อไปเรื่อย เพื่อไปไหว้พระที่ วัดพระใหญ่ เกาะฟาน ซึ่งเป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่ คนนิยมไปนมัสการ และถ่ายรูปกัน อยู่ตอนเหนือของเกาะ ด้านตะวันออก
ที่นี่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตั้งบนเนินเขาเห็นได้แต่ไกล

ออกจากวัดพระใหญ่ ขับรถเลาะลงใต้ไปเดินเล่นต่อที่หาดละไม
ถนนริมหาดละไม คึกคักน้อยกว่าแถวหาดเฉวงเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นย่านยอดนิยมอีกหาดนึง รองจากเฉวง หาที่จอดรถยากหน่อยเหมือนกัน เนื่องจากถนนแคบ

ชายหาดละไม บ่ายวันเสาร์ คนไม่มากเท่าไร ดูๆไปคล้ายๆ เสม็ด แต่ ที่นี่คนพลุกพล่านน้อยกว่า เสม็ดมาก

ตอนเย็น ว่าจะแวะไปดู ศูนย์ฝึกลิง ที่ เค้าย้ายมาอยู่ ใกล้ๆ  รพ.บ้านดอนสมุย แต่ไปถึงรอบสี่โมงเย็นมีฝรั่งมารอดู พร้อมกับเรา อีกหกคน ค่าดูคนล่ะห้าร้อยสำหรับการแสดง สี่สิบห้านาที
อยากอุดหนุนคนไทยเหมือนกัน  แม้ว่าค่าดูจะแพงไปหน่อย
แต่ เค้าบอก คนฝึกยังไม่มา ไปธุระเลื่อนไปอีกชมก่อน ประกอบกับดู บรรยากาศรอบๆ แล้วมัน ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร ดูไม่มืออาชีพเลย ก็เลยเปลี่ยนใจ งดดีกว่าอิๆ.
ออกจากหาดละไม  จะแวะไปหินตาหินยาย แต่ขับรถเลย ทางเข้าไป ราวๆ 20 เมตร เห็นป้ายครัวหินตาหินยาย มีที่จอดรถ ก็เลยจอดรถที่นี่ ถามคนรับรถ บอกลงไปชายหาดเดินต่อไปหินตาหินยายได้ ก็เลยลงไป แต่ปรากฏว่าต้องเดินไต่เขาไปไกลเลยเหมือนกัน ตอนเดินผ่านแถวนี้ เห็น มีร้านเหล้า ทำเป็นกระท่อม ซุกซ่อนอยู่ตามก้อนหิน และ ชายเขา บรรยากาศแปลกๆ
ดูแล้วแปลกใจ ว่า เป็นร้านเหล้า จริงๆ หรือว่าเป็นแหล่งที่ฝรั่ง เค้ามาใช้เสพยา กันหรือป่าว เนี่ย
แต่ขึ้นจากมุมนี้ สามารถเห็น หินตา ได้มุมสวยกว่า ขึ้นทางปกตินะ

หินตา อันนี้ พอไปถึง มองไป ปุ๊บ ก็ รู้ปั๊บ ว่าก้อนไหน  เป็น หิน " ของ " ตา :P

ส่วนหินยาย นี่ มองหาตั้งนาน ไม่เห็น ไม่มีป้าย ตอนแรกยืนข้างบน เห็นคนเค้าลงไปตั้งกล้องถ่ายอะไรย้อนมาด้านบนกันหว่า
พอเดินตามลงไปถ่ายมั่ง ถึงได้อ้อ นี่เอง " หิ น ยาย"
ปล.ขออนุญาตไม่เซ็นเซอร์ภาพนะ เพราะว่า มันก็แค่ หิ น น่ะ :P

จากลาน หินตา - หินยาย  จ่ายค่าบริการ ผ่านทาง 10 บาท เดินขึ้นไปบันไดไปจุดชมวิวด้านบน ชมลานหินตาหินยาย และอ่าวละไม จากมุมสูงสวยดีครับ

อันนี้จากจุดชมวิวด้านล่าง บนลานหิน บริเวณ หินตา-หินยาย
ออกจากลาน หินตา-หินยาย อย่าลืมซื้อกะลาแม ของดังที่นี่ ติดมือเป็นของฝากด้วยนะ อร่อยอิๆ

จาก หินตา - หินยาย ใกล้หกโมงเย็นได้เวลานัดไปทานข้าวมื้อค่ำวันเสาร์ ที่บ้านเพื่อน ที่ริมทะเล บางมะขาม ใกล้ๆหน้าทอน
เพื่อนมันไปซื้อที่บนเนินเขาห้าไร่กว่าๆ ทำสวนผลไม้ ปักหลัก อยู่สมุยทำงานเกือบสามสิบปี จนกลายเป็น ชาวสวนสมุย ไปเรียบร้อยแล้ว
ใครอยู่สมุยคุ้นๆบ้านนี้มั้ยเนี่ย

เช้าวันอาทิตย์  ตื่นสายๆ สบายๆ เพระว่าไมต้องทำงาน
อาหารเช้า ลงมาทานเกือบสิบโมง อร่อยง่ายๆ แบบสบายๆ เช่นเคย แขกทั้งโรงแรม 150 กว่าคน แต่วันนี้มีคนไทยนั่งอยู่แค่ 2 คน ตายาย อิๆ

หลังอาหารเช้า วันอาทิตย์ แวะลงมา เล่น น้ำที่ริมหาดอีกรอบ วันนี้เอา Sony Tx10 กันน้ำเลย พกลงไปถ่ายในน้ำด้วยเลย มุมจากด้านไกลเห็นก้อนหินที่ริม แหลมเสร็จ ซึ่งเคยเป็นรีสอร์ทเก่า แต่ตอนนี้หยุดกิจการ สงสัย อีกไม่นาน Centara ขยับไปเทคต่อ อีกแน่ๆ อิๆ )

เที่ยงวันอาทิตย์ หลังจากเล่นน้ำ ขึ้นมาอาบน้ำเสร็จ พอดีใกล้เที่ยง ก็เช็คเอ้าท์ อำลา จาก Centara Villa Samui เลย จัดการเก็บกระเป๋าใสท้ายรถจากมา แต่ยังไม่อำลาสมุย ยังมีเวลาตะลอน อีกครึ่งวัน ก่อนเครื่องออก สามทุ่มครึ่ง อิๆ

จุดแรกวันอาทิตย์ ที่แวะไป คือ เจดีย์รัตนโกสินทร์  ที่อยู่ทางใต้ของเกาะไม่ไกลจากรีสอร์ทมากนัก
ทางขึ้นชันมากๆ โค้งเยอะ แต่ดีที่ ทางสั้นๆไม่ไกล รถเล็กขนาด ยาริส ก็พอขึ้นไปได้ มีลานจอดให้ ตรงหน้าองค์พระนี้ ก่อนเดินต่อขึ้นไป นมัสการ องค์เจดีย์ ข้างบน

เจดีย์ รัตนโกสินทร์ ด้านบน เป็น เจดีย์องค์เก่า  ที่โดนฟ้าผ่าหลายครั้ง แต่ก็บูรณะขึ้นใหม่ ก่อน ที่ตอนหลัง จะย้ายไปสร้างที่ด้านล่างริมหาดอีก แห่งนึง ใกล้ๆกัน

ข้างบน  นอกจาก องค์เจดีย์ ที่บรรจุ พระบรมธาตุ แล้ว ก็มีพระพุทธรูป  ปางต่างๆ ประดับไว้

จุดชมวิว จาก ยอดเขา เจดีย์รัตนโกสินทร์

อันนี้ เจดีย์ บรรจุพระธาตุองค์ใหม่ ที่ย้ายลงมาสร้างที่ชายหาด  ที่อยู่ห่างออกมาราวๆ สองกิโลเมตร

ออกจาก เจดีย์รัตนโกสินทร์ ก็ขับรถ เลาะทางใต้ของเกาะ ผ่านไป ทาง ท้องกรูด ที่เป็นท่าเรือรับจ้าง เหมาไปเที่ยวดำน้ำที่เกาะห้า เกาะแตน เกาะมัดสัม เกาะเล็กๆ ไม่ไกลจากสมุยมาก ใช้เรือเล็ก วิ่งไปได้ ไม่เหมือนเกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพงัน ที่ต้องไปเรือใหญ่

บ่ายๆ เวลายังเหลือ เลยแวะไปเยี่ยมชม รพ.เกาะสมุย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากหน้าทอนมากนัก
โรงพยาบาลเกาะสมุย โรงพยาบาลที่อยู่ริมทะเล บรรยากาศดีมาก เพื่อนผมมาใช้ทุนที่นี่ เกือบ 30 ปี ตอนนี้ปักรกรากที่นี่ไม่ได้ย้ายไปไหนอีกเลย
แวะไป ชมรพ.หน่อยเผื่อส่งลูกสาว มาใช้ทุนที่นี่บ้าง  :P

จาก รพ.เกาะสมุย เลยต่อไปเที่ยว น้ำตกหินลาด ที่ห่างออกไปแค่ไม่กี่โล
แต่ตัวน้ำตก ต้องไต่เขาขึ้นไปอีก สองกม.
แต่ว่า ด้านล่างมีแอ่งน้ำให้คนมาเล่นน้ำหนีร้อนกัน คึกคัก :)

มื้อบ่ายวันอาทิตย์ ที่แม้ยังคงอิ่มอยู่ แต่อยากลองชิมอาหารพื่นเมืองที่ครัวเสวย ที่ คนสมุยแนะนำกัน

มื้อนี้ลอง วาย (ปลาหมึกยักษ์ตัวเล็กๆที่มีแต่ห้วและหนวด) คั่วกระทิ(คล้ายหลน)
เห็ดหลุบผัดฉ่า
และปลาหมึกผัดไข่เค็ม
รสชาติ อาหารรวมๆ อร่อยดี ราคาไม่แพง ด้วย
ร้านนี้ อยู่ ริมหาดตรงหน้าทอน ใกล้ท่าเรือเฟอรี่

อิ่มแล้ว ตอนบ่าย ขับวนรอบเกาะไปทางเหนือ ผ่านย่าน แม่น้ำ (ผ่านร้านหนมจีน ป้าไมตรีที่สี่แยกแม่น้ำที่เพื่อนๆแนะนำด้วย แต่ยังอิ่ม ทานไม่ไหวเลยผ่านไปก่อน) แวะไป วัดแหลมสุวรรณ หรือ วัดปลายแหลม ที่ติดๆกับวัดพระใหญ่แต่วันก่อนยังไม่ได้แวะ เลยแวะไปอีกรอบ
วัดแหลมสุวรรณ อยู่ใกล้ๆ กับวัดพระใหญ่ ถามพระที่วัดนี้ เค้าบอกว่าเป็นวัดเดียวกัน แต่แยกกันอยู่ ในบริเวณต่างกัน วัดแหลมสุวรรณ นี่เป็นวัดที่ถูกต้องแล้ว ส่วนวัดพระใหญ่ เกาะฟาน นั่นเหมือนเป็นแค่สำนักสงฆ์
สิ่งปลูกสร้าง รอบวัดสวยงาม รวมทั้งโบสถ์ บนดอกบัวกลางสระน้ำ

พระสังกัจจาย องค์ยักษ์ วัดแหลมสุวรรณ ดูจากด้านไกลสวยงามดี
แต่ดูใกล้ๆแบนไปหน่อย อิๆ
ด้านหน้ามี จตุคามรามเทพ ประดิษฐาน อยู่

จตุรเทพ รอบองค์พระสังกัจจาย ที่วัด แหลมสุวรรณ เป็นซุ้ม พระพิฆเณศร์ พระพรหม พระอินทร์ พระอิศวร ล้อมรอบสี่ทิศ สี่มุม

กวนอิมพันมือ ที่วัดแหลมสุวรรณ สวยอลังการณ์
สำหรับวัดนี้ คนชอบถ่ายรูปคงชอบแน่ๆ ห้ามพลาด นี่ถ้าไม่แวะมาอีกรอบเสียดายแย่เลย อิๆ

เริ่มจะเข้าบ่ายๆแก่ๆ เข้า เย็นวันอาทิตย์ ขับรถย้อนจากวัดปลายแหลม ลงไป เที่ยวหาดเฉวง หาด ยอดนิยมที่ยังค้างไม่ได้ลงไปชมหาดอีกหาดนึง

บ่ายวันอาทิตย์ หาทางจะลงไป เดินเล่นดูหาดเฉวง แต่ว่าส่วนใหญ่ร้านค้า และรีสอร์ท ปิดกั้นทางลงหาดเกือบหมด หาที่ลงหาด ไม่ได้ ที่จอดรถก็หายาก สุดท้ายได้ที่จอดริมถนน และ เดินตัด รีสอร์ทเฉวงบุรี ลงไปแทน ขอบคุณที่ให้ผ่าน วันหลังจะแวะไปใช้บริการ ครับ :)

หาดเฉวง สวยยาว ทรายสะอาด สมแล้ว ที่เป็นหาดยอดนิยม  ที่นี่ คนเยอะ คึกคัก  กลางคืน ก็เป็นย่านบันเทิงยอดนิยม ถ้าคนชอบสงบ คงต้องหลบไปห่างๆหน่อยๆ

สิ่งที่แปลกตา อีกแห่งนึง ในสมุย คือ สุสาน หรือฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ ริมหาดแถว เฉวงน้อย ก่อนถึงหาดละไม
เป็นฮวงซุ้ยขนาดใหญ่อยู่บนเขาทำเลสวย เนื้อที่หลายไร่ เห็นว่าเป็นของเจ้าสัว อะไร คหบดี ที่เป็นญาติของสมเด็จเกี่ยว
เนื้อที่แปลงนี้ทำรีสอร์ท หรือบ้านพัก ก็สวย
แต่ทำฮวงซุ้ยเท่ห์กว่าค่อดๆๆ :P

เที่ยวไปเรื่อยๆจน หกโมงเย็น แม้จะยังอิ่ม
แต่ ยังเหลือมื้อสุดท้าย ที่ยังไม่ได้ไปลอง ร้านดัง ของสมุย คือ " เสบียงเล "
ที่อยู่แถวหาดละไม ติดๆกับ หินตาหินยาย บรรยากาศริมทะเล สบายๆๆ เลยต้องแวะไปเยี่ยมซะหน่อย

มื้อสุดท้าย ที่สมุยที่เสบียงเล ร้านที่นักท่องเที่ยว นิยมเป็นอันดับหนึ่ง มื้อนี้ ประกอบด้วยอาหารพื้นเมืองเช่นเดิม

ยำเสบียงเล ยอดนิยม รสดี
น้ำพริกกุ้งสด อันนี้เปรี้ยวน้ำมะนาววิทยาศาสตร์ไปหน่อย เลยไม่ผ่าน
หมูคั่วเคยอร่อย แต่เค็ม และหวานจัดไปนิดนึง
ยำหอยเจาะ กับ สาหร่ายข้อ แซ่บอร่อยพอใช้ (แต่ฉุนมะนาววิทยาศาสตร์เช่นกัน)
หอยแมงภู่อบตัวเล็กไปนิด แต่รสชาติดี
มีข้าวสวย นี่แหละสอบตก กระด้าง และเม็ดข้าวหักไม่สวย เสียดาย เลยทำให้ ขาดความอร่อยไปเยอะ สองคนผมกินข้าวจานเดียว ไม่หมด อิๆ
แต่ราคา ไม่แรงเท่าไร
ถ้านับบรรยากาศ ดีๆ ก็ถือว่าโอเค ที่คนนิยมกัน แต่โดยส่วนตัว ชอบรสชาติของ ครัวชาวบ้านมากกว่า อิๆ

 

ทุ่มตรง  กินข้าวเสร็จจากเสบียงเลแล้ว แวะเติมน้ำมันเต็มถัง ก่อนคืนรถ(เติมไป 28 ลิตร สำหรับระยะทางราวๆ 300โล) แล้วขับตรงไปแอร์พอร์ต ถึง แอร์พอร์ตราวๆ เกือบสองทุ่ม ก่อนเวลาคืนรถ โทรเรียกพนักงานของ AVIS มารับรถคืน ตรง อาคารเช็คอินขาออกได้เลย เช็คตรวจเรียบร้อยอย่างรวดเร็วเร็วจน ลืมเอา GPS ลงจากรถ (แต่โทรบอกเค้าเค้าส่งคืน กลับมาให้ถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากครับ)
ไปถึงแถวเช็คอิน คนรอเช็คอินค่อนข้างหนาแน่น เพราะว่ามีไฟลท์ ออกใกล้ๆกันสองสามไฟลท์ ดูคิวแล้วค่อนข้างยาว
เลยตัดสินใจใช้ สิทธิ์ AIS Serenede Member เช็คอิน ผ่าน Blue Ribbon ของ Bizz Class เพื่อให้สะดวกขึ้นรวดเร็วขึ้น ( ตอนนี้ AIS Serenede Member มีช้อยซ์ให้เลือกใช้ เช็คอินด่วน หรือ ใช่ บริการ Blue Ribbon Lounge ในสนามบิน พร้อมผู้ติดตาม 1 คน ก็ได้อย่างใดอย่างนึง )

สนามบินสมุยตอนค่ำ  จากเค้าน์เตอร์เช็คอินเดินไป Gate แม้จะไม่ไกลมากนัก แต่ออกมาเดินกลางแจ้งนอกอาคารมืดๆ นี่แม้จะสวย แต่ก็เงียบ จนเหงาเหมือนกัน

Courtery Corner มุมกาแฟ เครื่องดื่ม และ ขนม ที่สนามบินสมุย ที่ทาง บางกอกแอร์เวย์จัดไว้บริการผู้โดยสารฟรี ทุกคน ทุกสายการบิน (เพราะว่า ชาร์ตไว้กับ ค่าใช้สนามบินพอแล้ว อิๆ )  มี เครื่อง Nespresso สำหรับคอกาแฟสด ไว้บริการด้วย

ล้อบบี้ ที่สนามบินกลางคืน มี Wifi ไว้ให้บริการ สำหรับ ผู้โดยสารทุกท่าน
และ สำหรับ สมาชิก Blue Ribbon หรือ ผู้โดยสารชั้น Bizz Class และ ลูกค้า AIS Serened มี สิทธิ์เลือกใช้  Blue Ribbon Lounge  บริการด้วย  
ที่ล้อบบี้เป็น Open Air ตอนนั่งรอเรียกขึ้นเครื่อง นี่อากาศร้อนค่อดๆ ยังนึกในใจ ว่าตัดสินใจผิดที่เลือกการเช็คอินไว แทนการ นั่งพักสบายๆ เย็นในเลาน์จ์แทนดีกว่า อิๆ

จุดประทับใจ ในแอร์พอร์ตเล็กๆอย่างสมุย นี่คือ ห้องน้ำ
ห้องน้ำ ที่สนามบินสมุย สวย สะอาด ตกแต่งได้ดีมาก โดดเด่น ให้คะแนนบวก สู้ได้ทั่วโลกเลย อิๆ

 

ขากลับ จาก Gate มี Tram รับไปขึ้นเครื่อง ที่ลานจอด
ขาไปบินด้วยเครื่องเจ็ท 45 นาทีถึง แต่ ขากลับ เป็นเครื่องเล็กใบพัด ราวๆ 100 ที่นั่งใช้เวลาบินกลับ 1 ชม. 15 นาที

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ปิดทริปการเดินทางสั้นๆสุดสัปดาห์ แบบลงตัว ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร
เที่ยวนี้ไม่ได้นั่งเรือไปเกาะเลย เพราะว่าตั้งใจ อยากชมสมุยให้ทั่ว
เนื่องจาก เกาะรอบๆอย่างเกาะเต่าและนางยวน ตะเวณดำ Scuba แถวนั้น เกือบ 30 Dive แล้ว แต่ไม่เคยขึ้นมาสมุยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ครั้งนี้เลยเป็นทริปแรกสำหรับสมุย

Back To-=Jfk=- Tour & Trip

www.2jfk.com

มีข้อแนะนำ หรือ ข้อมูลนะนำได้ครับ

jfk@2jfk.com