-=Jfk=-Science Corner

ชำแหละเหรียญควอนตั้ม

เหรียญควอนตัม หรือ เหรียญพลังงาน สเกล่า คืออะไร

มันคือเหรียญที่มีคนทำออกมาขาย ทั้งในต่างประเทศ และลามเข้ามาในประเทศไทย โดยอ้างว่า เหรียญนั้น มีพลังงานสเกล่า หรือ พลังงานควอนตั้ม ที่เมื่อคนที่เอามาใช้ จะได้รับพลังงานนั้น ทำให้แข็งแรง รักษาโรคต่างๆได้ สารพัดทั้งโรคเบาหวาน ความดันสูง ไขข้อ อัมพาติ และ มีการอวดอ้าง พร้อมทั้งสาธิต ว่าการใช้เหรียญนี้ จะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และมีการทรงตัวที่ดี โดยมีการสาธิตให้คนกดหรือ ทดสอบการยืดหยุ่นตัว เมื่อพกเหรียญ กับไม่พกเหรียญ เพื่อเรียกความเชื่อถือ ให้กับคนที่ใช้ ได้เห็นโดยใช้ทริค เข้าร่วมหลอกให้คนดูเชื่อว่า เหรียญมีประโยชน์จริง เพื่อเรียกความเชื่อถือ ความศรัทธา ต่อเหรียญ ทำให้เกิดอุปาทานคิดว่ามันดีจริงในเรื่องอื่นๆ
โดยมีชื่อเรียกกันหลายชื่อ ตั้งแต่เหรียญ ควอนตั้ม เหรียญสเกล่า เหรียญศุภโชค เหรียญ ฟิ้วชั่น ซึ่งรูปแบบก็เป็นเหรียญคล้ายกระเบื้องดินเผาบางแห่งทำเป็นรูปพระ หรือ เกจิดังๆ ร่วมด้วยไปก็มี

แล้วพลังงาน สเกล่า หรือควอนตั้ม นั่นจริงๆ มันคืออะไร

พลังงานสเกล่า คือพลังงานที่ถูกปล่อยกระจายออกมาจากแหล่งกำเนิดแบบไม่มีทิศทาง สะเปะสะปะ
ส่วนควอนตั้ม นั่น เป็นภาษาฟิสิกข์อีกอันหมายถึง พลังงานที่ ที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ ทำตัวเหมือนอนุภาค หรือ เป็นกลุ่มก้อน
ถ้าพูดรวมๆง่ายๆ ก็คือที่เค้ากล่าวอ้างก็คือ พลังงานทั้งสองนั่น คือ “ รังสี “ ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า นั่นเอง
แต่มันไม่ใช่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ธรรมดาอย่างพวก แสง หรือความร้อน แต่ เป็น “ รังสี “ ที่แผ่ออกมาจากสารกัมมันตรังสี หรือ สารที่นำไปใช้ ทำพวกระเบิดนิวเคลียร์ หรือ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ที่เราทั้งหลายหวาดกลัวกันทั้งหลายนั่นแหละ รังสีตัวที่ร้ายที่สุดที่สารพวกนี้ปล่อยออกมา ก็คือ “รังสีแกมม่า” ซึ่งเป็นรังสี ที่มีความถี่สูงสุด ทำให้มีอำนาจทะลุทะลวงสูงสุด (สูงกว่า รังสีเอ็กซ์เรย์ ที่เรารู้จักกันดีด้วยซ้ำ)และ แน่นอนมันเป็นรังสีที่อันตรายสูงสุดด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีรังสีอื่นๆ เช่นรังสี เบต้า และ แอลฟ่า ซึ่งก็เป็นอันตรายรองๆลงไป

แล้วสารกัมมันตะรังสีพวกนี้ได้มาจากไหน

ปกติแล้วในสิ่งแวดล้อมทั่วไปก็มี สารกัมมันตรังสีปนเปื้อนบ้างแต่ปริมาณน้อยไม่เป็นอันตราย ต่อคนทั่วไป แต่พวกเหรียญเหล่านี้ คนผลิตจะนำเอาหินภูเขาไฟ หรือหินอื่นๆ ที่มีสารกัมมันตรังสี ผสมอยู่มาก เช่น แร่ โมโนโซท์ มาบดแล้วทำเป็นเหรียญขาย ทำให้พบว่าเมื่อตรวจวัดรังสี แล้ว จะพบว่า มี มันมีรังสี ปลดปล่อยออกมาจากเหรียญเหล่านี้ จริง และจริงๆแล้ว หินเหล่านี้ไม่ได้มีราคาแพงหรือหายากแต่อย่างใด
บริษัทเหล่านี้บางบริษัทได้นำเหรียญตัวอย่าง ส่งตรวจวัดหารังสีจากเหรียญ โดยสถาบันของรัฐ หรือ มหาวิทยาลัยต่างๆ แล้วให้ออกใบรับรองว่ามีรังสีจริง แล้วนำมาโฆษณาขาย อันนี้ต้องบอกว่า ที่ทางสถาบันเค้ารับรอง เค้ารับรองว่ามันมีรังสี เท่านั้นแต่ไม่ได้รับรองว่ามันมีผลดี
แต่การรับรองนี้กลับถูกนำเอาไปกล่าวอ้างให้หลายคนเข้าใจคิดว่า มีสถาบันที่น่าเชื่อถือรับรองว่าเหรียญ มีประสิทธิภาพ ทั้งที่ความจริงแล้ว มันตรงกันข้าม การที่บอกว่ามีรังสีอยู่ นั่นเท่ากับ บอกว่าให้ ระวัง อันตรายจากรังสีต่างหาก
เรื่องนี้สำนักงานพลังงานปรมานูเพื่อสันติ (หน่วยงานที่ควบคุมการใช้รังสี ของประเทศเรา) ได้ทำการทดสอบ และ ออกมาประกาศเตือนว่า เหรียญเหล่านี้ มีไอโซโธป ในอนุกรมของยูเรเนียม 238 และทอเรียม 232 อยู่ในปริมาณที่อาจเป็น อันตรายต่อร่างกายได้ บางอันพบว่า วัสดุ ที่นำมาใช้ทำ มีสารกัมมันตรังสีสูงกว่า หินปกติ ทั่วไป ประมาณร้อยเท่า ก็มี
แต่บางแห่ง ที่ทำกันออกมาก็มี ปริมาณ ของรังสีที่ออกมา ไม่มากนัก ลดหลั่นกันไป(คงเกรงว่าคนขาย ที่สัมผัสรังสีนานๆ จะได้รับอันตราย ไปก่อนได้ใช้เงินมั้งเลยเริ่มลดลง :P)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรในแง่สุขภาพ และการรักษาโรค มีแต่โทษกับร่างกายเท่านั้น

ถ้ารังสีต่างๆรวมทั้ง รังสีแกมม่า มันมีอันตราย แล้วปกติเรา ใช้ทำประโยชน์อะไรและมีผลอะไรกับคนบ้าง

รังสีพวกนี้อย่างที่บอกมันเกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ ดังนั้น ในทางวิทยาศาสตร์ ก็จะเอาไปทำกล้องส่องดูดาว โดยตรวจับ รังสีแกมม่า ที่ออกมาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์บนดวงดาวต่างๆ แต่ว่ารังสีแกมม่านี้จะถูกชั้นบรรยากาศโลกกรองไว้หมด จึงไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่กล้องพวกนี้ ก็ต้องเอาไปติดตั้งไว้บนดาวเทียม นอกชั้นบรรยากาศโลก
และมีการนำมาใช้อีกอย่างคือ ในอุตสาหกรรมถนอมอาหาร เช่น การฉายรังสีอาหาร ให้ มันเน่าเสียช้าลง แต่ไม่ได้หมายถึงมันทำให้เซลของ อาหารสด เน่าเปื่อยยาก ( ซึ่งอาจจะทำให้คิดว่าฉายคนแล้วเซลจะสดชื่น ขึ้นแข็งแรง ขึ้นนะ) แต่ตรงกันข้าม มันไปฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นถ้านำมาใช้ห้อยกับตัวคน ก็จะทำลายเซลเนื่อเยื่อเราได้ด้วยเช่นกัน ก่อให้เกิดอันตราย โดยไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

ในส่วนของการรักษาโรค รังสีพวกนี้ มี ประโยชน์มั้ย

ถ้าหมายถึง การรักษาโรคต่างๆที่กล่าวอ้างในการนำมาขาย ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ไขข้อ ความดันสูง อัมพาต รวมทั้งเรื่องการกล่าวอ้างว่า มันเพิ่มความแข็งแรงหรือยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ อันนั้น ยืนยันว่าไม่ช่วยแต่อย่างใด หลายคนอาจจะมีประสบการณ์ รู้สึกเหมือนดีขึ้น ที่เกิดจากเชื่อมั่น กำลังใจหรืออุปาทาน ที่ทางการแพทย์เรียกว่า Placebo Effectแต่ไม่ใช่จากผลของรังสีจากเหรียญแต่อย่างใด
ในทางการแพทย์ มีการใช้พวกรังสีเอ็กซ์เรย์ (ซึ่งความแรงจะน้อยกว่า พวกแกรมม่า) ในการฉายแสงเพื่อทำลายเซลมะเร็งที่ไวต่อการทำลายด้วยรังสี เท่านั้นนั้นๆแต่มันก็มีผลเสีย ต่อเซลปกติด้วยดังนั้น หมอจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เป็นพิเศษ อย่างยิ่ง แต่การนำมาแขวนติดตัวเป็นการหาเรื่องอันตรายใส่ตัวโดยไมได้ประโยชน์แต่อย่างใด

ทำไมใน การสาธิต ของผู้ขาย จึงทำให้คนเห็นว่า คนที่คล้องเหรียญ หรือถือเหรียญไว้ ถึงมีการทรงตัวได้ดีขึ้น หรือแข็งแรงขึ้น

การสาธิตนั้น มีทริค ง่ายๆที่ในต่างประเทศ และในไทยเรา ก็มีการเปิดโปงกันไปเยอะแล้ว เช่นการทรงตัวโดยการกดแขน แล้วไม่ล้ม นั้น แค่ใช้หลักการของ วิทยาศาสตร์ง่ายเรื่องจุดศูนย์ถ่วง เมื่อไม่ได้ถือเหรียญกดตรงๆ ก็ล้ม แต่ถ้า ถือเหรียญคนกดกดดันเข้าหาตัว ตามแนวจุดศูนย์ถ่วงเมื่อแรงไม่พ้นจากจุดศูนย์ถ่วงก็จะไม่ล้ม ลองดูจากคลิป นี้ได้
เปิดโปงกลโกง การสาธิต ความแข็งแรง ความยืดยุ่น ของร่างกาย และ การทรงตัว (วอมแบ็ต ก็ใช้แทนได้ เหรียญควอนตั้มได้):P

ส่วนเรื่องการยืดหยุ่น ก็เป็นธรรมชาติ คนที่พอยืดกล้ามเนื้อไปครั้งนึง แล้วยืดซ้ำ จะทำให้ยืดไปได้เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้า จะทดสอบจริงๆต้องทำ Blind Test หรือ ให้ทดสอบโดยไม่สามารถทราบได้ว่ามีเหรียญจริงหรือเหรียญปลอมอยู่กับตัว
ซึ่งเราเคยทำไปแล้ว กับคนที่เชื่อเรื่องเหรียญนี้ และยืนยันว่ามันช่วยให้แข็งแรง และทรงตัวได้ดี ที่คณะวิทยาศาสตร์จุฬา ซึ่งผลปรากฏว่า เมื่อทำ Blind Test คนทดสอบไม่สามารถแยกได้เลย ว่า เหรียญจริงหรือเหรียญปลอม อันไหน ที่ทำให้เค้ารู้สึกแข็งแรงหรือ ทรงตัวได้ดีขี้น
นอกจากนี้ก็ยังมีการสาธิตที่เหมือนเล่นกล เช่นเอาน้ำที่แช่เหรียญ อ้างว่าเกิดไออ้อน แล้วเอามาทาผิว แล้วจุดไฟแช็คลนที่ผิวให้คนดู เหมือนกับพวกเล่นกล สาธิตกัน ซึ่งพวกนี้ทริคมีทั้งการใช้ สารบางอย่างทาแขนไว้ก่อนทดสอบ ตลอดจนการใช้ไฟที่เกิดจากสารที่จุดวาบไฟต่ำ ให้ความร้อนต่ำมาใช้

ทำไมบางคนจึงมีประสพการณ์ ดีขึ้นจากการใช้เหรียญ

โรคบางอย่างหลายโรคดีขึ้น หรือ รู้สึกว่าดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกเชื่อมั่น หรือมีกำลังใจ โดยเฉพาะในระยะแรก ดังนั้นการที่ได้รับการสาธิตให้ดูเห็นว่า มันมี พลังมหัศจรรย์ ทั้งที่เป็นแค่กลหลอกลวงเท่านั้น ก็ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและอุปาทานได้
แต่ถ้าทำการทดสอบ อย่างจริงจัง โดยเฉพาะทำการทดสอบ ตามหลักวิทยาศาสตร์แบบ Blind Test หรือ ไม่ให้รู้ ว่ากำลังใช้เหรียญจริงหรือปลอม จะพบว่ามันไม่ได้ผลตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เหมือนที่เราได้ทำการทดสอบมาแล้ว

หลักการ Blind Test ก็ เพื่อกำจัดความรู้สึกลวง หรือ Placebo effect เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับการทดสอบการนำยาหรือ การรักษาต่างๆเข้ามาใช้ เป็นประจำเสมอๆ เพื่อให้ได้ทราบผลของยา กับการรักษาอย่างจริงจัง

ผลเสียของรังสี มีอะไรบ้าง

การสัมผัสรังสีบ่อยๆ มันจะสะสม และ มันมีผลทำให้เซลปกติของเรา เปลี่ยนแปลงไป อาจจะทำให้เกิด กลายเป็นมะเร็ง หรือ ใน คนวัยเจริญพันธ์ อาจจะทำให้เกิดการ การกลายพันธ์ หรือ Mutation ของ เซลสืบพันธ์ ถ้ามีลูก ก็อาจจะทำให้เด็กออกมาอาจจะพิการได้
ดังนั้น ในคนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับรังสี หรือ จำเป็นต้องได้รับรังสีนั้น จะต้องยึดหลัก ALARA (As Low As Reasonably Achievable) ซึ่งจะพยายามให้ผู้ปฏิบัติงานทางรังสีและประชาชน ทั่วไปได้รับรังสีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่ควรได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น และต้องใช้เครื่องตรวจวัดรังสีสะสม ในตัว ดูปริมาณที่ได้รับ ถ้าได้รับมากต้องหลีกเลี่ยง หยุดสัมผัสรังสีอยู่แล้ว ไม่ใช่ ไปหาเรื่องเอารังสี มาใส่ตัวเองอย่างนี้

เมื่อมันไม่ได้ผล และมีอันตรายอย่างนี้ ทำไมหน่วยงานของรัฐยังปล่อยให้มีการขายได้

จริงๆแล้วทางอย.ได้เคยออกประกาศเตือน เมื่อ 29 ส.ค.2551 ว่า เหรียญ ควอนตั้ม โฆษณาเข้าข่ายยาหรือเครื่องมือแพทย์ แต่ว่า ไม่มี หลักการทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ และไม่มีหน่วยงานรัฐใดๆ รับรอง หากพบเห็นการซื้อขาย โปรดแจ้งสายด่วนอย. 1556 หรือ 0-2590-7000 แต่ก็ยังคงเห็นการขาย โดยเฉพาะ ตอนนี้พัฒนาพัฒนากันมาเป็นการขายตรง มีผลประโยชน์ล่อใจ คนขาย ยิ่งน่าเป็นห่วง อยากฝากให้หน่วยงานรัฐ ทั้ง อย. สคบ.และ กบว. ควบคุมด้วย

คลิป เรื่อง เหรียญควอนตั้ม จาก Ozone New ช่อง Spring New ช่วงHealth Zone วันที่ 1 กพ. 54

มีปัญหาเพิ่มเติม เมลล์มาคุยกันได้ ครับ
jfk@2jfk.com
Back to -=Jfk=-Science Corner
www.2jfk.com