-=Jfk=-Science Corner

.

FWM:>ไฟฟ้าช๊อต ตายช่วยได้ครับ....???      

ก่อนอื่นผมขอออกตัวนะครับทุกท่าน ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้เลิศเลอ มากมาย เพียงแต่อยากจะนำความรู้ที่พอมี และประสบการณ์มาแบ่งปันกันบ้างในฐานะที่เราอยู่ใต้ร่มโพธิ์ อาศัยพระบารมีของพระองค์ท่าน ไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมาตลอด มีคุณอนันต์ แต่มีโทษมหันต์ครับ ผมไปเรียนซ่อม วิทยุโทรทัศน์ เครื่องขยายเสียงและ..ฯ กับ คุณครู ถาวร   คำมณีจันทร์ คนขอนแก่น ท่านเป็นช่างยุคแรก ๆ ของเมืองไทย เคยอยู่โรงเรียนแสงทองวิทยุโทรทัศน์ , อิเล็กทรอนิคส์กรุงเทพ-รังสิต สุดท้ายกลับบ้านสร้างโรงเรียนสอนซ่อมโทรทัศน์ที่ อ.ชุมแพ ขอนแก่นโน่น
ท่านแนะนำเกี่ยวกับคนที่โดนไฟฟ้าช็อตตาย ตายนะครับ
อย่าปล่อยไว้นานเกิน 1 ชั่วโมง และ อย่าเพิ่งรีบส่งโรงพยาบาล ให้หาทางคลายประจุไฟฟ้าในตัวคนตายก่อน
โดยหาแผ่นเหล็ก หรือสังกะสีมาวางคนที่โดนไฟฟ้าช็อตบนนั้น
แล้วเทน้ำราด(อย่าให้น้ำเข้าจมูกนะครับ กระแสไฟที่อยู่ในตัวจะถูกคลายประจุลงดินครับ..
เขาจะค่อย ๆ รู้สึกตัว หรือ ร้องลั่น แล้ว ฟื้น แล้วค่อยส่งโรงพยาบาล
ผมเคยเจอมากับตัวเองครับ ฟื้นครับ สิบราย ฟื้นทั้งสิบครับ สมัยก่อน นะครับ คนที่ถูกฟ้าลงข้าง ๆ ตัว (ไม่ถึง กะตัวไหม้เกรียมนะครับ) เขาใช้ น้ำเหล้าขาวที่ดื่มกันมาเป่า ก็ ยังฟื้นได้นับประสาอะไรกับน้ำเป็นครุถัง
แต่ถ้านำไปโรงพยาบาลทันที โดนปั๊มหัวใจทันที ตับแตกตายแน่นอนครับท่าน สาเหตุเพราะว่ากระแสไฟฟ้าชาร์ทประจุอยู่เต็มตัว ฉะนั้นจึงให้คลายประจุก่อน จึงค่อยส่งโรงพยาบาล
และขอแนะนำว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดให้ทำการต่อสายดินเอาที่เส้นโต ๆ หน่อยหาเหล็กแท่งมาตอกลงดินเทน้ำให้ชื้น ๆ คนใช้ ก็ จะปลอดภัยครับส่วนสาเหตุที่ เมื่อต่อสายดินแล้วทำไมไฟฟ้าไม่ช็อตนั้นตามหลักการแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวนำที่เป็นสื่อทุกชนิด มากน้อยแล้วแต่ความต้านทานของสื่อไฟฟ้าครับ ความต้านทานน้อย กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านมาก ความต้านทานมากกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านได้น้อย ขอให้ท่านสังเกตุดูนะครับว่าเสาไฟฟ้าแรงต่ำจะมีสายต่อลงดินเป็นระยะ ๆ ไป นั่นก็เป็นการป้องกันในระดับหนึ่งครับ เรื่องของสายล่อฟ้าก็เช่นเดียวกันไม่ใช่ไม่ให้ฟ้าลงนะครับ แต่เป็นการล่อให้มันลงมา ลงมาทีละน้อย ๆ ไง. มันจึงไม่ผ่าเพราะประจุไฟฟ้าไม่มากพอ ถ้าท่านไม่เชื่อ ในขณะครื้มฟ้าครื้มฝนลองไปยืนใกล้ ๆสายล่อฟ้าดูนะครับ จะมีกระแสไฟฟ้าทำให้เราขนลุกได้แต่ไม่มีอันตราย ......ขอจบตรงนี้นะครับ
.............................................................................................................................................................

ข้อเท็จจริงเรื่องนี้

เข้าใจว่า คนที่เล่า และทำเป็น ฟอร์เวิร์ดเมล์ต่อๆกันมานั้น คงอาจจะเคยเห็นคนที่ถูกไฟช้อตแล้วหยุดนิ่งไปพักนึง แล้วได้ยิน คำบอกเล่า ที่ผิดๆ ที่เล่ากันมาดังกล่าว เลยนำคนไข้ไปวางกับสังกะสี  ราดน้ำ แล้วเห็นคนไข้ฟื้นได้ จึงคิดว่ามันเป็นมีการถ่ายประจุลงดิน แล้วจึงฟื้นขึ้นมา ก็เลยสรุป ไปอย่างนั้น
แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว คนไข้ที่โดนไฟช้อต นั้น หลายคน ไม่ได้มีการหยุดเต้นของหัวใจ หรือ หยุดไปชั่วระยะสั้น แล้วกลับมาเต้นเอง หรือ แค่หมดสติไปวูบหนึ่ง แล้วฟื้นขึ้นมาเองได้ แม้จะไม่ได้เอาไปวางไว้บนพื้นสังกระสี หรือ แผ่นเหล็ก แล้ว ราดน้ำก็ตาม (คือฟื้นขึ้นมาเองนั่นแหละ) ซึ่งก็พบได้เยอะ ไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายประจุใดๆ ที่ว่ามาทั้งสิ้น
กระแสไฟฟ้าที่เข้าสู่คนแล้วมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว อยู่แล้ว หลังจากหลุดออกจากแหล่งกำเนิดไฟ พวกที่เสียชีวิต มักเกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าผ่านเข้าร่างกายแล้วไปรบกวนคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และสมอง ทำให้หัวใจหยุดเต้นทันที และ มีการหยุดหายใจร่วมไปด้วย
ถ้าคนไข้ไม่ฟื้นกลับมา หลังจากโดนช้อต ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ ที่เหมาาะสมก็จะเสียชีวิตได้ แต่ถ้าได้รับการผายปอด และ ปั๊มป์กระตุ้นหัวใจอย่างถูกต้องมีโอกาสฟื้นได้ ระหว่างนั้นก็นำคนไข้ส่งมายังโรงพยาบาลทันที เพราะว่า ถ้าผายปอดและปั๊มป์หัวใจเอาไว้ สมองยังไม่ขาดเลือด มาถึงรพ.อาจจะใช้การช้อคหัวใจกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ร่วมกับการใช้ ยา ช่วยให้หัวใจกลับมาเต้นได้ รอดชีวิตได้ การที่ปล่อยให้คนไข้หัวใจหยุดเต้นนานเกิน 4-5 นาที หรือเลยไปเป็นสิบนาที (ไม่ต้องถึงชม.อย่างที่ FWM นั้นว่า) นั่นก็จะทำให้สายเกินไปที่จะช่วย เพราะว่าจะทำให้สมองคนไข้ขาดเลือดและตายไปแล้ว
ส่วนการที่บอกว่า อย่านำส่งรพ.ทันทีให้รอไว้ก่อนเพราะว่ากลัวว่าไปรพ.แล้วหมอปั๊มป์หัวใจแล้วจะทำให้ตับแตก เป็นคำแนะนำที่ผิด การปั๊มป์หัวใจ ถ้ากดหน้าอกแรงเกินไปอาจจะมีผลแทรกซ้อนที่ทำให้ซี่โครงหัก แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตับแตก และก็ยังดีกว่า การปล่อยให้คนไข้ ตายไป
และทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องมีประจุกตกค้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น(เพราะว่าประจุมันไม่มีอยู่แล้ว ไม่งั้นคนจับตัวคนไข้ที่ถูกช้อตแล้ว ก็คงโดนประจุจากตัวคนไข้ช้อตกันหมดแล้ว )
ผมเอง เจอคนไข้แบบนี้ พามารพ.ตอนที่หยุดหายใจไปนานแล้ว สมองตาย และ ก่อนมา ญาติ มีความเชื่ออย่างที่ว่า คือเอานอนแผ่นเหล็กราดน้ำก่อน มาแต่ ไม่ฟื้น และกว่า จะพามาถึงรพ. ก็สมองตายช้าเกินไปแล้ว บ่อยๆเหมือนกัน ดังนั้น ควรช่วยกันให้คำแนะต่อกันแก้ไขเรื่องความเชื่อผิดๆนี้ด้วย

สรุป ถ้าพบคนไข้ไฟฟ้าช้อต ควรรีบช่วยให้พ้นจากกระแสไฟฟ้าโดยใช้ผ้าแห้ง หรือ ไม้ ที่เป็นฉนวนดึง หรือ เขี่ยคนไข้ออกหรือตัดกระแสไฟ แล้ว ช่วยผู้ป่วยออกมาสังเกตุ ว่ายังมีชีพจร หรือ ยังหายใจหรือไม่ ถ้าหายใจเอง ได้หัวใจเต้น ให้รีบนำส่งแพทย์ ถ้า ไม่มีการเต้นหัวใจหรือ ไม่หายใจ ถ้ามีความรู้เรื่องการกู้ชีวิต ก็ทำการปั๊มป์นวดหัวใจ และผายปอดพร้อมรีบนำส่งแพทย์ ที่ใกล้ที่สุด อย่าไปเสียเวลารอหรือทำอะไรผิดๆ อันจะส่งผลให้ คนไข้สมองตายก่อนถึงมือแพทย์ได้

มีปัญหาเพิ่มเติม เมลล์มาคุยกันได้ ครับ
jfk@2jfk.com
Back to -=Jfk=-Science Corner
www.2jfk.com